นักบุญฟรานซิสรับแผลศักดิ์สิทธิ์ สติกมาต้า โดย จ๊อตโต้ (St. Francis receives the Stigmata | Giotto)

ชื่อภาพ: St. Francis receives the Stigmata คศ. 1297-99

ศิลปิน: Giotto (คศ. 1267 - 1337)

เทคนิค: ภาพวาดปูนเปียก (fresco)
มิติ: 106.25 x 90.5 นิ้ว / 270 × 230 ซม.
ปัจจุบันอยู่ที่: ซานฟรานเชสโก อัสสิซิ อิตาลี (Sanfrancesco, Assisi, Italy)

จ๊อตโต้ ดิ บอนโดเน่ (Giotto di Bondone คศ. 1267 - 1337) มีผลงานอยู่ใน ทัสกานี, เนเปิ้ล, ตอนเหนือของอิตาลี รวมถึงในฝรั่งเศส เขาเป็นศิษย์เอกของ ชิมาบูเอ้ (Cimabue)

รูปนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ภาพชุดจิตรกรรมฝาผนัง 28 ภาพ  ในโบสถ์ ซาน ฟรานเซสโก เล่าเรื่องราวตำนานของ  นักบุญฟรานซิส (St. Francis ผู้ก่อตั้ง ลัทธิ ฟรานซิสกัน) ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่า 25 ภาพ เป็นฝีมือการวาดภาพปูนเปียกของ จ๊อตโต้ ยุคแรกๆ

มาเอสต้า ของ ซานตา ตรินิต้า โดย ชิมาบูเอ้ (Maesta of Santa Trinita | Cimabue)

ชื่อภาพ: Maesta of Santa Trinita คศ. 1285-86

ศิลปิน: Cimabue (คศ. 1240-1302)

เทคนิค: สีฝุ่น บนแผ่นไม้ (Tempera on wood)
มิติ: 151.5x87.75 นิ้ว / 385 × 223 ซม.
ปัจจุบันอยู่ที่: อุฟฟิซซี่ ฟลอเร้นซ์ อิตาลี (Uffizi, Florence, Italy)

ภาพวาดบนแผ่นไม้ขนาดใหญ่ (กรอบเดิมสูญหายไปหมดแล้ว) ผลงานของ ชิมาบูเอ้ (Cimabue | Cenni di Pepi) ชิ้นนี้ เดิมถูกติดตั้งไว้สูง 465 ซม. เหนือพระแท่นหลัก (main altar) ใน โบสถ์ ซานตา ตรินิต้า (Santa Trinita church) เป็นศูนย์รวมจิตใจและสายตาศาสนิกชนที่เข้ามาเยี่ยมชม

คำตัดสินครั้งสุดท้าย โดย คาวาลลินี่ (the Last Judgment | Pietro Cavallini)

ชื่อภาพ: the Last Judgment (คศ.1293)

ศิลปิน: Pietro Cavallini

 เทคนิค: ภาพวาดปูนเปียก (fresco)

มิติ: 126x551 นิ้ว/ 320x1400 ซม.

ปัจจุบันอยู่ที่ผนังโบสถ์ของ ซานตา เซซิเลีย, โรม, อิตาลี

(church of Santa Cecilia, Trastevere, Rome, Italy)

ปิเอโตร คาวาลลินี่ (คศ.1250-1330) เป็นทั้งจิตรกร และนักออกแบบโมเสค ผลงานส่วนใหญ่อยู่ในโรม
งานของเขามีลักษณะโดดเด่น เป็นสัญญานของการพัฒนาเปลี่ยนแปลงจาก ศิลปะแบบไบแซนไทน์ (Byzantine) ไปสู่ ศิลปะแบบ เรอเนซองซ์ (Renaissance) คือ ดูสมจริงเป็นธรรมชาติ ภาพคนมีความเป็นสามมิติมากขึ้น

ตรึงกางเขน โดย ชิมาบูเอ้ (Crucifix | Cimabue)

ชื่อภาพ: Crucifix คศ. 1287-88

ศิลปิน: Cimabue (คศ. 1240-1302)

เทคนิค: สีน้ำมัน บนแผ่นไม้
มิติ: 176x153.5 นิ้ว / 448x390 ซม.
ปัจจุบันอยู่ที่ บาซิลิก้า ดิ ซานตา โครเซ่, ฟลอเร้นซ์, อิตาลี
(Basilica di Santa Croce, Florence, Italy)

เบ็นซิวิเอนี่ ดิ ปีโป้ (Bencivieni di Pepo) หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม ชิมาบูเอ้ (Cimabue) มีผลงานทั้งการวาดรูป และทำภาพโมเสค เป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่คนสุดท้ายที่ผลิตผลงานแบบ ไบแซนไทน์ (Byzantine ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ มักวาดบุคคลในภาพยืนนิ่งเรียงกันไป ตกแต่งประดับประดารายรอบอย่างวิจิตร และปิดทอง)

ชิมาบูเอ้ และศิษย์เอก จ๊อตโต้ (Giotto) ได้รับการยกย่องเป็นนักบุกเบิก เป็นผู้ริเริ่มการวาดภาพผู้คน ให้มีสัดส่วนถูกต้อง แสดงท่าทางแตกต่างกัน ด้วยอากัปกิริยาเหมือนคนทั่วไป สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบแผนการวาดภาพ ให้ดูเป็นธรรมชาติสมจริงยิ่งขึ้น ผลงานของ ชิมาบูเอ้ เป็นที่รู้จักมากมายหลายชิ้น ในขณะที่น้อยคนนักจะรู้เรื่องราวชีวิตของศิลปิน

มาดอนน่าและพระบุตร โดย ดูชโช่ (Madonna and Child | Duccio di Buoninsegna)

Madonna and Child ~คศ.1300

Duccio di Buoninsegna? (คศ.1255-1399)

เทคนิค: สีฝุ่น และ ทอง บนแผ่นไม้ (tempera, gold on panel)

มิติรวมกรอบเฟรม: 27.9x21 cm

ปัจจุบันอยู่ที่: เมโทรโปลิตัน มิวเซียม ออฟ อาร์ต, นิวยอร์ค, อเมริกา
(Metropolitan Museum of Art, New York, USA.)

ภาพวาด มาดอนน่า และพระบุตร ชิ้นนี้ เป็นภาพขนาดเล็ก สันนิษฐานว่าเป็นงานของ ดูชโช่ ดิ บัวนินเซ็นญ่า หรือ ดูชิโอ (Duccio di Buoninsegna) จิตรกรชาวอิตาเลียน วาดด้วยเทคนิคสีฝุ่น และปิดทอง บนแผ่นไม้ มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะถูกซื้อโดย พิพิธภัณฑ์ Metropolitan Museum of Art (MET) เมื่อปี คศ.2004 ด้วยมูลค่าสูงกว่า 45 ล้านดอลล่าร์ (ตัวเลขที่แน่ชัดไม่เปิดเผย) แต่ก็มีผู้แย้งว่าเป็นภาพที่เพิ่งทำขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 19

รุคเชลลาย มาดอนน่า โดย ดูชโช่ (Rucellai Madonna | Duccio di Buoninsegna)

ชื่อภาพ: Rucellai Madonna คศ.1285

ศิลปิน: Duccio di Buoninsegna

เทคนิค: สีฝุ่น และ ทอง บนแผ่นไม้ (tempera, gold on panel)

มิติ: 1777x114 นิ้ว / 450x290 cm

ปัจจุบันอยู่ที่: อุฟฟิซซี่ ฟลอเร้นซ์ อิตาลี (Uffizi, Florence, Italy)

ดูชโช่ (หรือ ดูชิโอ) ดิ บัวนินเซ็นญ่า (Duccio di Buoninsegna คศ. 1255-1399) เกิดในเซียนน่า (Sienna)  แคว้นทัสกานี (Tuscany) เป็นหนึ่งในจิตรกรเอกของศตวรรษที่ 13

ดูชโช่ วาดภาพตามแบบแผนของ ไบแซนไทน์ (Byzantine) แต่ก็มีความพยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นการบุกเบิกไปสู่ยุค โกธิค (Gothic)

ลาน ปิแอสซ่า เดลล่า ซินญอเรีย 24 October 2007 Piazza della Signoria, Florence, Italy

หลังจากชมภาพใน พิพิธภัณฑ์อุฟฟิซซี่ (Uffizi Gallery) จนเต็มอิ่ม ราวบ่ายสอง เดินออกมาจะเจอลานกว้างรูปตัวแอล (L) ที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว และฝนเม็ดฝอยๆ สลับกับตกแรง

ลาน ปิแอสซ่า เดลล่า ซินญอเรีย (Piazza della Signoria) พิกัด 43.769332,11.255334 คลิกดูแผนที่

ตั้งอยู่หน้า ศาลากลางเมืองฟลอเร้นซ์  พาลาซโซ่ เว็คคิโอ้ (Palazzo Vecchio)

ลาน หรือ จตุรัส แห่งนี้ เป็นจุดรวม และศูนย์กลาง เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ จวบจนปัจจุบัน ก็ยังเป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จะเห็นน้ำพุ ประติมากรรมเทพเนปจูน โดดเด่นกลางลาน แต่อาจจะไม่ได้เปิดน้ำ ถัดมาข้างๆ ยังมีประติมากรรมอีกหลายชิ้น

 

น้ำพุเทพเนปจูน (Neptune fountain) ประติมากรรมแกะสลักจากหินสีขาว

โดย บาร์โธโลมีโอ้ อัมมานนาตี้ Bartolomeo Ammannati

พิพิธภัณฑ์อุฟฟิซซี่ 24 October 2007 Uffizi, Florence, Italy

สะพาน ป็อนเต้ เว็คคิโอ้ (Ponte Vecchio) เหนือแม่น้ำ อาร์โน่ ยามเช้า (10:01)
พิกัด 43.767838, 11.255058 คลิกดูแผนที่

วันพุธ 24 ตุลาคม 2550 หลังจากทานมื้อเช้า(ฟรี) ในโฮสเทล อาร์คิ รอสซี่ Ostello Archi Rossi (พิกัด 43.778026,11.250962 คลิกดูแผนที่) ก็เร่งเท้ามาถึงยังริมแม่น้ำ อาร์โน่ (Arno) ราว 09:30 เพื่อเตรียมเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ นั่นคือ พิพิธภัณฑ์อุฟฟิซซี่ The Uffizi Gallery (Italian: Galleria degli Uffizi) หนึ่งในสุดยอดพิพิธภัณฑ์ เก่าแก่ รวบรวมงานศิลปะตะวันตกชั้นเลิศระดับโลกไว้มากมาย (พิกัด 43.767904,11.255212 คลิกดูแผนที่จาก Google Maps)