Tuesday, May 18, 2010

ตรึงกางเขน โดย ชิมาบูเอ้ (Crucifix | Cimabue)

ชื่อภาพ: Crucifix คศ. 1287-88
ศิลปิน: Cimabue (คศ. 1240-1302)
เทคนิค: สีน้ำมัน บนแผ่นไม้
มิติ: 176x153.5 นิ้ว / 448x390 ซม.
ปัจจุบันอยู่ที่ บาซิลิก้า ดิ ซานตา โครเซ่, ฟลอเร้นซ์, อิตาลี
(Basilica di Santa Croce, Florence, Italy)

เบ็นซิวิเอนี่ ดิ ปีโป้ (Bencivieni di Pepo) หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม ชิมาบูเอ้ (Cimabue) มีผลงานทั้งการวาดรูป และทำภาพโมเสค เป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่คนสุดท้ายที่ผลิตผลงานแบบ ไบแซนไทน์ (Byzantine ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ มักวาดบุคคลในภาพยืนนิ่งเรียงกันไป ตกแต่งประดับประดารายรอบอย่างวิจิตร และปิดทอง)

ชิมาบูเอ้ และศิษย์เอก จ๊อตโต้ (Giotto) ได้รับการยกย่องเป็นนักบุกเบิก เป็นผู้ริเริ่มการวาดภาพผู้คน ให้มีสัดส่วนถูกต้อง แสดงท่าทางแตกต่างกัน ด้วยอากัปกิริยาเหมือนคนทั่วไป สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบแผนการวาดภาพ ให้ดูเป็นธรรมชาติสมจริงยิ่งขึ้น ผลงานของ ชิมาบูเอ้ เป็นที่รู้จักมากมายหลายชิ้น ในขณะที่น้อยคนนักจะรู้เรื่องราวชีวิตของศิลปิน

ชิมาบูเอ้ มีชื่อเสียงจาก ภาพจิตรกรรมฝาผนัง (เฟรสโก้ Fresco) 2 ชิ้นในมหาวิหาร บาซิลิก้า ของ เซนต์ฟรานซิส ใน อัสซิซี (Basilica of St.Francis in Assisi) แต่เป็นที่น่าเสียดาย ผลงานบนผนัง เซนต์ฟรานซิส ถูกทำลายจากเพลิงไหม้ และแผ่นดินไหว

ผลงาน ตรึงกางเขน (ครูซิฝิค Crucifix) เป็นอีกชิ้นที่ทรงอิทธิพล เป็นแรงบันดาลใจแก่ศิลปินยุคถัดมา ตั้งแต่ มิเคลัญเจโล (ไมเคิลแองเจโล Michelangelo) จนถึง ฟรานซิส เบค่อน (Francis Bacon) แต่ก็น่าเสียดายอีกเช่นกันที่ ภาพนี้ค่อยๆ เสื่อมสลาย จากเหตุอุทกภัย เมื่อปี คศ. 1966 แม่น้ำอาร์โน่ (Arno) ท่วมกระหน่ำ มหาวิหาร ซานตา โครเซ่ (Santa Croce) ชะผิวหน้าภาพหลุดไปเกือบหมด เสียหายอย่างหนัก

ภาพพระคริสต์สิ้นพระชนม์ บนไม้กางเขน ด้วยร่างกายที่เกือบจะเปลือยเปล่า ลำตัวบิดโค้ง อ่อนช้อย ขัดแย้งกับ พื้นหลังที่แบนราบเรียบ ให้สังเกต รัศมีวงกลมสีทองเหนือศรีษะ (halo) มีการวาดเงาตกกระทบด้วย ทำให้ผู้ดูภาพ รู้สึกมีระยะห่างระหว่าง ศรีษะพระคริสต์กับไม้กางเขน ซึ่งแตกต่างไปจากภาพของศิลปินอื่นในยุคเดียวกัน ที่นิยมวาดพระคริสต์ตัวตรงแข็งทื่อ ในกรอบไม้กางเขน และลงสีแบนเรียบ


No comments:

Post a Comment